“จอร์เจีย” น้องใหม่ยูโร

ได้ครบ 24 ทีมลุยศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ปี 2024 หรือยูโร 2024 เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันรอบเพลย์ออฟ นัดชิงชนะเลิศทั้ง 3 คู่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าอีก 3 ทีมที่เอาชนะในรอบเพลย์ออฟได้แก่ โปแลนด์, จอร์เจีย และยูเครน

โดยผลของทั้ง 3 ทีมมีดังนี้ โปแลนด์ เป็นฝ่ายเอาชนะจุดโทษ “มังกรแดง” เวลส์ ไปได้ 5-4 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาที 0-0 ขณะที่จอร์เจีย เอาชนะจุดโทษ กรีซ ไปได้ 4-2 หลังจากเสมอในเวลา 120 นาที 0-0 ด้านยูเครนเชือดเอาชนะ ไอซ์แลนด์ ไปได้ 2-1

สรุป 24 ทีมที่ผ่านเข้ามาสู่รอบสุดท้ายและได้ทำการจับสลากแบ่งสายออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “มะระหวาน” ก็จะมาสรุปให้ได้รับทราบอีกครั้งดังนี้

กลุ่มเอ : เยอรมนี (เจ้าภาพ), สกอตแลนด์, ฮังการี, สวิตเซอร์แลนด์

กลุ่มบี : สเปน, โครเอเชีย, อิตาลี, แอลเบเนีย

กลุ่มซี : สโลวีเนีย, เดนมาร์ก, เซอร์เบีย, อังกฤษ

กลุ่มดี : โปแลนด์, เนเธอร์แลนด์, ออสเตรีย, ฝรั่งเศส

กลุ่มอี : เบลเยียม, สโลวะเกีย, โรมาเนีย, ยูเครน

กลุ่มเอฟ : ตุรกี, จอร์เจีย, โปรตุเกส, เช็ก

สำหรับยูโร 2024 รอบสุดท้ายจะฟาดแข้งระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน จนไปถึง 14 กรกฎาคม 2567

และเมื่อได้ 24 ทีมครบแล้วบรรดาบ่อนพนันถูกกฎหมายในเมืองผู้ดีก็ได้ออกมาคาดการณ์ทันทีว่าใครเป็นเต็งแชมป์ที่จะคว้าแชมป์ยูโร 2024 มาครอง

โดยเต็ง 1 เป็น “สิงโตคำราม” อังกฤษ ที่มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 3/1  เต็ง 2 “ตราไก่” ฝรั่งเศส ที่มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 10/3  เต็ง 3 “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ที่มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 11/2 เต็ง 4 “กระทิงดุ” สเปน ที่มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 7/1 และอันดับ 5 โปรตุเกส ที่มีอัตราต่อรองอยู่ที่ 8/1

เมื่อดูจาก 24 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมีหนึ่งทีมที่ไม่เคยได้สัมผัสเกมในระดับทัวร์นาเมนต์เมเจอร์เลยสักครั้งและได้สิทธิ์ลงเล่นในยูโร 2024 รอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกนั่นก็คือจอร์เจีย

สำหรับจอร์เจีย มีโอกาสใกล้เคียงมากที่สุดก็คือในศึกยูโร 2020 หรือเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งพวกเขาก็ไปได้ถึงรอบเพลย์ออฟ นัดชิงชนะเลิศ เช่นกัน แต่ครั้งนั้นแพ้นอร์ท มาซิโดเนีย ไป 0-1

มาคราวนี้ก็ทำให้จอร์เจียเน้นเป็นพิเศษ ตอนแรกก็นึกว่าจะชวดอีกครั้งเพราะการเจอกับ กรีซ ก็ไม่ธรรมดาเพราะถือว่าเคยเป็นอดีตแชมป์เลยทีเดียว แต่สุดท้ายจอร์เจียก็ทำได้สำเร็จ

ถือว่าการพยายามของจอร์เจียในครั้งที่ 15 เป็นผลสำเร็จ เพราะนับตั้งแต่จอร์เจียแยกออกมาจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 ยังไม่เคยได้สัมผัสเกมระดับทัวร์นาเมนต์แบบนี้เลย

อีกหนึ่งคนที่ต้องได้รับการยกย่องนั่นก็คือ วิลลี ซาญอล อดีตแบ็กขวาทีมชาติฝรั่งเศส ที่แม้ว่าประสบการณ์ในการคุมทีมยังมีไม่มาก แต่ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนพาจอร์เจียทะลุเข้าสู่รอบสุดท้ายไปได้

เชื่อว่าหลังจากจบยูโร 2024 รอบสุดท้าย ซาญอล น่าจะเป็นอีกหนึ่งกุนซือที่จะเนื้อหอมอย่างแน่นอน!!

*อิงจากthairath.co.th